แหล่งท่องเที่ยวชุมชน

Gastronomy Village Tourism

“แหล่งท่องเที่ยวชุมชนในเขตพัฒนาการท่องเที่ยวเมืองรองชายฝั่งทะเลตะวันออก ระยอง-จันทบุรี-ตราด”

ตลาดการค้าชายแดนบ้านหาดเล็ก


ภาพชุมชน

 ตลาดการค้าชายแดนบ้านหาดเล็ก ตั้งอยู่บริเวณบ้านหาดเล็ก ตำบลหาดเล็ก อำเภอคลองใหญ่ จังหวัดตราด เป็นหมู่บ้านสุดชายแดนติดต่อกับราชอาณาจักรกัมพูชา อยู่ปลายทางถนนหลวงแผ่นดินหมายเลข 31 ตลาดการค้าชายแดนแห่งนี้ เป็นแหล่งซื้อขายพืชพันธุ์ ธัญญาหารต่างๆ ชาวกัมพูชานิยมมาเลือกซื้อเพื่อขนส่งไปขายต่อที่เกาะกง นอกจากสินค้าเพื่อการบริโภค แล้วยังมีสินค้าเพื่อการอุปโภค เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า น้ำหอม และเครื่องประดับ
 ตลาดการค้าชายแดนบ้านหาดเล็ก จะคึกคักเฉพาะในช่วงเช้า เวลาประมาณ 07.00-08.30 น. นอกจากนี้บริเวณตลาดการค้าชายแดนบ้านหาดเล็กยังเป็นจุดเชื่อมโยงในการเดินทางไปสู่ประเทศกัมพูชา และเดินทางต่อไปยังประเทศอื่นในแถบภูมิภาคนี้ บริเวณสุดชายแดน (สุดแผ่นดินไทย) นี้นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายรูปเป็นที่ระลึกและเชคอิน ว่าครั้งนึงเคยมาสุดแดนประเทศไทย ณ ชายแดนบ้านหาดเล็ก

ข้อมูลการติดต่อ

ด่านตรวจคนเข้าเมืองอำเภอแหลมงอบ โทร. 0 3959 7261
ด่านตรวจคนเข้าเมืองอำเภอคลองใหญ่ โทร. 0 3958 8067
สอบถามข้อมูล: โทรศัพท์ 0 3958 8084 หรือ
ที่สถานทูตกัมพูชา กรุงเทพฯ โทรศัพท์ 0 2253 7967 , 0 2254 6630

ชุมชนบ้านไม้รูด


ภาพชุมชน

  ชุมชนบ้านไม้รูด เป็นหมู่บ้านชาวประมงเล็กๆ ที่ตั้งอยู่บริเวณริมน้ำปากอ่าว อำเภอคลองใหญ่ จังหวัดตราด มีป่าชายเลนและลำคลองยาวออกไปสู่ทะเลตลอดหมู่บ้าน ภายในชุมชนมีการสร้างถนนคอนกรีตเลียบคลองยาวไปตลอดหมู่บ้านทั้งสองฝั่งคลอง หากเดินไปตามถนนคอนกรีตเรียบคลองนี้ จะพบกับบ้านเรือนของชาวประมงที่เรียงรายต่อกันไป รวมถึงมีเรือประมงจอดเลาะเรียบคลองหน้าบ้านตลอดเส้นทาง ชาวบ้านในชุมชนก็มีความเป็นมิตร มีไมตรีจิตที่ดีต่อนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก

ข้อมูลการติดต่อ

ชุมชนบ้านไม้รูด อำเภอคลองใหญ่
สอบถามการท่องเที่ยวเชิงนิเวศได้ที่ องค์การบริหารส่วนตำบลไม้รูด โทร. 0-3969-1095

ชุมชนคลองใหญ่


ภาพชุมชน

  ชุมชนคลองใหญ่ อำเภอคลองใหญ่ จังหวัดตราด เป็นชุมชนที่อยู่บริเวณชายแดนด้านทะเลฝั่งตะวันออกของประเทศที่ติดต่อกับประเทศกัมพูชา และเป็นพื้นที่ที่ชาวกัมพูชาและชาวไทยเดินทางไปมาหาสู่ได้อย่างสะดวก เนื่องจาก มีจุดผ่านแดนถาวรบ้านหาดเล็ก เป็นเสมือนประตูเชื่อมโยงการค้า การท่องเที่ยว การลงทุนและการสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศ นำไปสู่การแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม และเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน อำเภอคลองใหญ่ มีการค้าชายแดนและการค้าผ่านแดนที่สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับท้องถิ่นและประเทศค่อนข้างสูง มีแนวโน้มที่นักท่องเที่ยวจะเดินทางมาท่องเที่ยวในพื้นที่สูงขึ้น ความเป็นอยู่ของประชาชนในอำเภอคลองใหญ่ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพประมงซึ่งเป็นวิถีถิ่นชาวเลที่น่าสนใจ มีการจัดการท่องเที่ยวเพียงบางส่วน ในการจัดการท่องเที่ยวส่วนใหญ่มีเพียงการทำผลิตภัณฑ์เพื่อจำหน่ายแก่นักท่องเที่ยว
  อำเภอคลองใหญ่ เป็นชุมชนที่อยู่ในชัยภูมิที่ติดกับประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะเกาะกงประเทศกัมพูชา จึงมีวัฒนธรรมร่วมระหว่างไทย-กัมพูชา ซึ่งถือเป็นเมืองพหุวัฒนธรรม โดยเฉพาะบริเวณตลาดคลองใหญ่ซึ่งเป็นชุมชนตลาดเก่า มีบ้านเรือนเป็นห้องแถวโบราณตั้งเรียงรายติดกัน ผู้คนในย่านนี้จึงผสมผสานวัฒนธรรมอาหารจากประเทศเพื่อนบ้านกับอาหารถิ่นได้อย่างลงตัว เช่น ขนมเบื้องญวน ที่มีลักษณะคล้ายคลึงกับขนมเบื้องญวนทั่วไป แต่มีความแตกต่างที่น้ำจิ้ม ขนมพื้นถิ่นอีกหนึ่งชนิดที่น่าสนใจ คือ บันดุ๊ก เป็นการนำแป้งมากวนด้วยไฟอ่อนลักษณะคล้ายขนมเปียกปูน ไม่ได้ใส่น้ำตาลในตัวขนมแต่ใช้น้ำเชื่อมราดและโรยหน้าด้วยถั่วลิสงป่น ถือว่าชุมชนคลองใหญ่มีวัฒนธรรมอาหารในลักษณะวัฒนธรรมร่วมอย่างลงตัวบนฐานพหุวัฒนธรรม รอต้อนรับนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีความสนในเรื่องประวัติศาสตร์วัฒนธรรม สิ่งแวดล้อม และอาหารถิ่น...

ข้อมูลการติดต่อ

-

ชุมชนบ้านช้างทูน


ภาพชุมชน

  ชุมชนบ้านช้างทูน เป็นชุมชนที่มีความพร้อมในการจัดการท่องเที่ยว ด้านวัฒนธรรมอาหารชุมชนสามารถดึงดูดใจนักท่องเที่ยวได้ ในชุมชนมีพืชพันธุ์ที่สามารถนำมาเป็นวัตถุดิบในการประกอบอาหารได้หลากหลาย อาทิ กล้วยพระ (กล้วยป่าพื้นถิ่น) ที่นำมาแกงกับเนื้อสัตว์ มีรสชาติชวนลิ้มลอง รับประทานคู่กับข้าวมันห่อด้วยใบละป้าง (พืชเฉพาะถิ่น) นอกจากนี้ยังยังมีขนม ขนมป๋าย/ป้าย ซึ่งเป็นขนมเฉพาะถิ่นของชาวชองซำเร ทำจากแป้งข้างเหนียวใส่ใส้ห่อด้วยใบคลุ้ม ซึ่งต้นคลุ้มนอกจากใบใช้ห่ออาหารแล้ว ลำต้นยังสามารถนำมาทำเป็นเครื่องจักรสาน ที่มีความคงทนเป็นผลิตภัณฑ์เด่นของชาวชองบ้านช้างทูนอีกด้วย
  ภายในบริวเณ พื้นที่ชุมชนตำบลช้างทูน สายแร่พลอย ในอดีตชาวบ้านมีการทำพลอย (ร่อนพลอย) แต่ในปัจจุบันเป็นเป็นกิจกรรมหนึ่งสำหรับนักท่องเที่ยว คือการร่อนพลอย นอกจากจะได้รับความสนุกเพลิดเพลิน ได้สัมผัสกับธรรมชาติที่บริสทธิ์แล้วยังมีโอกาสลุ้นได้พลอยด้วย และอีกกิจกรรมหนึ่งที่ค่อนข้างได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวคือ การทำสปาสุ่มไก่ ซึ่งในการทำสปาชาวชุมชนได้นำสมุนไพร “ชองระอา” ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นสมนไพรศักดิ์สิทธิ์ของชาวชอง มีสรรพคุณมากมาย มาเป็นส่วนประกอบหลัก โดยใช้หม้อต้มน้ำในสุ่มไก่แทนตู้อบแบบที่เคยพบเห็นกันโดยทั่วไป ชุมชนบ้านช้างทูนเป็นชุมชนที่มีความพร้อม ทั้งทรัพยากรทางธรรมชาติ วิถีชีวิตและวัฒนธรรม ที่เปิดรับนักท่องเที่ยวที่สนใจการท่องเที่ยวโดยชุมชน ในรูปแบบการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมอาหารไทย (Gastronomy village) ที่ถือได้ว่าเป็นการอนุรักษ์วัฒนธรรมพื้นถิ่นให้คงอยู่คู่สังคมไทยต่อไป

ข้อมูลการติดต่อ

ผู้ที่สนใจเข้าไปท่องเที่ยวในชุมชนบ้านช้างทูน ที่นี่เปิดทำการ เวลา 10.00-16.00น.
สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)
สำนักงานตราด โทร. 0-3959-7255
และประธานกลุ่มพิพิธพัณฑ์บ้านช้างทูน โทร. 09-2542-9395

ชุมชนบ้านท่าระแนะ


ภาพชุมชน

ชุมชนบ้านท่าระแนะ ตั้งอยู่ในอำเภอเมืองตราด จังหวัดตราด เป็นแหล่งศึกษาเรียนรู้ และการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ เนื่องจากในชุมชนมีผืนป่าชายเลนขนาดใหญ่ พื้นที่ขนาดกว่า 2,000 ไร่ ชาวบ้านได้อาศัยทำมาหากิน จับปู ปลา กุ้ง หอย ด้วยป่าแห่งนี้มีความอุดมสมบูรณ์ทำให้มีพันธุ์ไม้ป่าชายเลนขึ้นอยู่มากมาย เช่น ต้นตะบูน ที่ขึ้นหนาแน่นจนกลายเป็นป่าชายเลนที่มีความอัศจรรย์ เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยว Unseen ของจังหวัดตราด
  หากต้องการชมความอัศจรรย์นี้ต้องนั่งเรือเข้าไปที่ลานตะบูน ประมาณ 2 กิโลเมตร นักท่องเที่ยวก็จะได้พบกับลานต้นตะบูน ซึ่งเอกลักษณ์ของต้นตะบูนคือ รากที่ลอยอยู่บนดิน ไม่จมอยู่ใต้ดินเหมือนต้นไม้ทั่วไป รากตะบูนมีความพิเศษคือ เมื่อเวลาน้ำขึ้นพื้นรากตะบูนจะเป็นสีดำแต่ในเวลาน้ำลงพื้นรากตะบูนจะกลายเป็นสีขาวเหมือนกับต้น บริเวณนี้ นักท่องเที่ยวสามารถทำกิจกรรม “โยนโบว์ริงลูกตะบูน” เป็นกิจกรรมที่เรียกความสนใจจากนักท่องเที่ยวได้อย่างมาก นอกจากนี้ภายในชุมชนยังมีการจัดกิจกรรมย้อมผ้าจากลูกตะบูนเป็นอีกกิจกรรมที่นักท่องเที่ยวสามารถมัดย้อมผ้าเช็ดหน้า ผ้าคลุมไหล่ หรือผ้าอื่นๆ เมื่อย้อมเสร็จนักท่องเที่ยวสามารถนำกลับไปใช้หรือเป็นของฝากได้ด้วย ชุมชนบ้านท่าระแนะมี “ชาร้อยรู” ซึ่งเป็นสมุนไพรเพื่อสุขภาพจากป่าชายเลน ใบโกงกางชุบแป้งทอดแสนอร่อย และอาหารทะเลสดๆ หากนักท่องเที่ยวท่านใดอยากไปสัมผัสบรรยากาศแห่งธรรมชาติที่มีความอัศจรรย์ หรือทำกิจกรรมภายในชุมชนที่ท้าทาย ชุมชนท่าระแนะเป็นชุมชนหนึ่งต้องไป

ข้อมูลการติดต่อ

ที่ตั้งลานตะบูน : หมู่ 2 บ้านท่าระแนะ ต.หนองคันทรง อ.เมืองตราด จ.ตราด
พิกัด : แผนที่
ติดต่อ : 081-161 6694 (ผู้ใหญ่สายชล)

ชุมชนบ้านน้ำเชี่ยว


ภาพชุมชน

  ชุมชนบ้านท่าระแนะ ตั้งอยู่ในอำเภอเมืองตราด จังหวัดตราด เป็นแหล่งศึกษาเรียนรู้ และการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ เนื่องจากในชุมชนมีผืนป่าชายเลนขนาดใหญ่ พื้นที่ขนาดกว่า 2,000 ไร่ ชาวบ้านได้อาศัยทำมาหากิน จับปู ปลา กุ้ง หอย ด้วยป่าแห่งนี้มีความอุดมสมบูรณ์ทำให้มีพันธุ์ไม้ป่าชายเลนขึ้นอยู่มากมาย เช่น ต้นตะบูน ที่ขึ้นหนาแน่นจนกลายเป็นป่าชายเลนที่มีความอัศจรรย์ เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยว Unseen ของจังหวัดตราด
  หากต้องการชมความอัศจรรย์นี้ต้องนั่งเรือเข้าไปที่ลานตะบูน ประมาณ 2 กิโลเมตร นักท่องเที่ยวก็จะได้พบกับลานต้นตะบูน ซึ่งเอกลักษณ์ของต้นตะบูนคือ รากที่ลอยอยู่บนดิน ไม่จมอยู่ใต้ดินเหมือนต้นไม้ทั่วไป รากตะบูนมีความพิเศษคือ เมื่อเวลาน้ำขึ้นพื้นรากตะบูนจะเป็นสีดำแต่ในเวลาน้ำลงพื้นรากตะบูนจะกลายเป็นสีขาวเหมือนกับต้น บริเวณนี้ นักท่องเที่ยวสามารถทำกิจกรรม “โยนโบว์ริงลูกตะบูน” เป็นกิจกรรมที่เรียกความสนใจจากนักท่องเที่ยวได้อย่างมาก นอกจากนี้ภายในชุมชนยังมีการจัดกิจกรรมย้อมผ้าจากลูกตะบูนเป็นอีกกิจกรรมที่นักท่องเที่ยวสามารถมัดย้อมผ้าเช็ดหน้า ผ้าคลุมไหล่ หรือผ้าอื่นๆ เมื่อย้อมเสร็จนักท่องเที่ยวสามารถนำกลับไปใช้หรือเป็นของฝากได้ด้วย
  ชุมชนบ้านท่านะแนะ“ชาร้อยรู” ซึ่งเป็นสมุนไพรเพื่อสุขภาพจากป่าชายเลน ใบโกงกางชุบแป้งทอดแสนอร่อย และอาหารทะเลสดๆ หากนักท่องเที่ยวท่านใดอยากไปสัมผัสบรรยากาศแห่งธรรมชาติที่มีความอัศจรรย์ หรือทำกิจกรรมภายในชุมชนที่ท้าทาย ชุมชนท่าระแนะเป็นชุมชนหนึ่งต้องไป

ข้อมูลการติดต่อ

วิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวบ้านน้ำเชี่ยว จ.ตราด
โทร. 06 1660 0955 เฟสบุ๊ค www.facebook.com/NamchieoCommunity
วันเสาร์-อาทิตย์ สัปดาห์แรกของทุกเดือน นักท่องเที่ยวสามารถชม ชิม ช้อป ที่ตลาดประชารัฐ ริมสองฝั่งคลอง และร่วมกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมาย
สอบถามเพิ่มเติมที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยสำนักงารตราด โทร 039-597-259

พิพิธภัณฑ์อัญมณี


ภาพชุมชน

  พิพิธภัณฑ์เมืองอัญมณี ตั้งอยู่ที่ตำบลบ่อพลอย อำเภอบ่อไร่ จังหวัดตราด เป็นพิพิธภัณฑ์ที่
จัดตั้งขึ้นเพื่อให้ตระหนักถึงความสำคัญของประวัติศาสตร์ในการทำเหมืองพลอยที่สูญหายไปแล้ว ในอดีตตำบลบ่อพลอย อำเภอบ่อไร่ จังหวัดตราด เป็นแหล่งที่อุดมไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติ คือ พลอย (ทับทิมสยาม) เป็นจำนวนมาก จึงมีนักแสวงโชคนิยมเดินทางเข้ามาขุดพลอยทำเหมืองพลอยในตำบลบ่อพลอย เป็นจำนวนมาก ขณะนั้น การค้าขายเจริญรุ่งเรืองมาก กระทั่งประมาณปี พ.ศ. 2540 การขุดพลอย การร่อน
พลอย การทำเหมืองพลอยเริ่มซบเซา เนื่องจากพื้นที่ที่เปิดให้ทำสัมปทานพลอยเริ่มหมด การขุดพลอย การร่อนพลอย หรือการทำเหมืองพลอย รวมถึงคนที่ทำอาชีพเกี่ยวกับการทำพลอยเริ่มเลือนหายไป
  ด้วยเหตุนี้ จึงได้มีการจัดสร้างพิพิธภัณฑ์ ประวัติ ตำนาน และวิวัฒนาการของการขุดพลอย ในตำบลบ่อพลอย อำเภอบ้านไร่ จังหวัดตราด เพื่อให้เยาวชนรุ่นหลัง และประชาชนทั่วไปได้ศึกษาเรียนรู้เกี่ยวกับการขุดพลอย การร่อนพลอย และการทำเหมืองพลอย โดยใช้ชื่อว่าพิพิธภัณฑ์ “เมืองอัญมณี” ซึ่งภายในพิพิธภัณฑ์มีการจัดแสดงหุ่นขี้ผึ้งเสมือนจริงในอิริยาบถต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับการทำพลอย เริ่มตั้งแต่ขั้นตอนการหาพลอยในขั้นตอนต่างๆ การทำเหมืองพลอย การคัดพลอย การเผาพลอยในสมัยอดีต ซึ่งการเผาพลอยเป็นวิธีการเพิ่มมูลค่าให้กับพลอยอันเป็นเอกลักษณ์ท้องถิ่น จนถึงการเจียระไนพลอย นอกจากหุ่นขี้ผึ้งจำลองแล้ว แต่ละมุมจะมีภาพประกอบพร้อมคำบรรยายให้ความรู้เกี่ยวกับการทำพลอย หรือจะซื้อพลอยก็สามารถซื้อได้ที่นี่ แต่ต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ล่วงหน้าเพื่อนัดให้คนขายพลอยนำพลอยมาให้นักท่องเที่ยวได้เลือกซื้อ หากนักท่องเที่ยวท่านใดสนใจในวิถีชีวิตของคนเหมืองพลอย หรืออยากศึกษาเรื่องการทำพลอยสามารถเข้าไปมาเยี่ยมชมได้ในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ (มีการเก็บค่าเข้าชมด้วย ซึ่งราคาชาวต่างชาติจะแพงกว่าคนไทย)

ข้อมูลการติดต่อ

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม พิพิธภัณฑ์เมืองอัญมณี โทร. 0-3959-1111 กด 0 ต่อ 15
สำนักงานเทศบาลตำบลบ่อพลอย 111 หมู่ 3 ตำบลบ่อพลอย อำเภอบ่อไร่ จังหวัดตราด 23140
โทรศัพท์ : 039-591-111
โทรสาร : 039-591-293